คือ การใช้คำกริยาที่ปกติแล้วมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบ เมื่อ verb+ preposition or particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs แล้ว อาจจะทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาซึ่งอาจจะไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลย นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ
หลักสำคัญในการใช้ Phrasal Verbs หรือ Two-Word Verbs
1.เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับ verb เช่น
- please come in.
- Don't give up, whatever happens.
2. เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them, me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
- I can't make it out. (right)
- I can't make out it.(wrong)
3. เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc.เป็น direct object จะวาง noun ไว้หน้าหรือหลัง adverb ก็ได้ (verb +adverb +noun) หรือ (verb +noun +adverb) เช่น
- Turn on the light. หรือ - Turn the light on.
4. ตามข้อ 3 ถ้า object เป็นคำยาว เช่นมี object clause ขยายต้องวางobject ไว้หลัง adverb เช่น
- He gave away every book that he possesed. (right)
- He gave every book that he possesed away. (wrong)
1.เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับ verb เช่น
- please come in.
- Don't give up, whatever happens.
2. เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them, me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
- I can't make it out. (right)
- I can't make out it.(wrong)
3. เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc.เป็น direct object จะวาง noun ไว้หน้าหรือหลัง adverb ก็ได้ (verb +adverb +noun) หรือ (verb +noun +adverb) เช่น
- Turn on the light. หรือ - Turn the light on.
4. ตามข้อ 3 ถ้า object เป็นคำยาว เช่นมี object clause ขยายต้องวางobject ไว้หลัง adverb เช่น
- He gave away every book that he possesed. (right)
- He gave every book that he possesed away. (wrong)
5. ในประโยคอุทาน (exclamatory Sentences)ให้วาง adverb ไว้หน้าประโยคยืดหลักดังนี้
5.1 ถ้าประธานเป็น noun เอากริยาตามมาได้เลย เช่น
-Off went john! = John went off.
5.2 ถ้าประธานเป็น pronoun ใหัใช้แต่ adverb ไม่ต้องใช้ verb เช่น
-Away they went ! = They went away. อ่านเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น